"สุชัชวีร์" ปราศรัยเวทีแรกกรุงเทพฝั่งตะวันออกยืนยันนโยบายทำได้จริงหลังมีประสบการณ์ทุกด้าน ผลักดัน กทม. เป็นเมืองสวัสดิการ ทันสมัย ต้นแบบอาเซียน
นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 4 ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่กรุงเทพฝั่งตะวันออกครั้งแรก ที่โรงเรียนวัดพระยาสุเรนทร์ เขตคลองสามวา โดยมีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่ากทม. และผู้สมัคร ส.ก. 6 เขต ประกอบด้วย เขต คลองสามวา/ เขตคันนายาว/เขตหนองจอก/เขตมีนบุรี/ เขตสายไหม /และเขตบางเขน สลับสับเปลี่ยนขึ้นแสดงวิสัยทัศน์บนเวที ขณะที่บรรยากาศการมีกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งนายเมธี อรุณ (เมธี ลาบานูน) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และประชาชนในพื้นที่มาร่วมรับฟัง
นายสุชัชวีร์กล่าวก่อนขึ้นเวทีปราศรัยว่ารู้สึกตื่นเต้นกับเวทีแรก การลงพื้นที่ 50 เขตและได้รับกำลังใจเยอะมาก และทำให้น้ำหนักลงไปแล้ว 5 กิโลกรัมส่วนหมัดเด็ดก็จะปล่อยมาเรื่อย ๆ แต่วันนี้ตั้งใจจะพูดถึงเรื่องคนและเรื่องเมืองรวมถึงปัญหาการศึกษาและมาขอโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงให้ได้จริง เพราะ ผู้ว่ากทม.ไม่ใช่ว่าใครก็จะทำได้ ต้องใช้พลัง ความรู้ หลักวิชาการ
สำหรับคนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจนั้นนายสุชัชวีร์ ระบุว่า ในวันนี้ กทม. ต้องการความเปลี่ยนแปลงเพราะมีปัญหาที่หนักและในห้วงเวลาดำรงตำแหน่ง 4 ปี มีความเปลี่ยนแปลงและอนาคตของในทุกช่วงอายุจึงไม่อยากให้มองข้ามจุดนี้ กทม. ต้องการคนที่มีพลังและพร้อมที่จะเสียสละประสบการณ์และทีมงานพรรคและส.ก. ที่มีพร้อมทั้ง 50 เขต ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของการสังกัดพรรคการเมือง ซึ่งตนเองให้ความสำคัญกับการศึกษาจึงเลือกปราศรัยใหญ่ในโรงเรียนโดยเฉพาะพื้นที่ชานเมืองด้วย
นายสุชัชวีร์ ยังยืนยันว่า ยิ่งเดินยิ่งมั่นใจ ยิ่งเดินยิ่งรักคนกรุงเทพ และในวันนี้ดีใจที่นายอภิรักษ์มาร่วมขึ้นเวทีปราศรัย เพราะหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในสมัยที่นายอภิรักษ์เป็นผู้ว่าฯกทม. เช่น หอศิลปฯ ซึ่งสนองการใช้ชีวิตของประชาชนและจะมีการรื้อฟื้นและสานต่ออย่างต่อเนื่องด้วย
ขณะที่บนเวทีปราศรัย นายสุชัชวีร์ ได้ยืนยันถึงนโยบายที่ออกมาทั้งหมด ว่าสามารถทำได้จริง เช่น ทางด้านสาธารณสุขที่ตนเองเคยสร้างโรงพยาบาล และผลิตเครื่องมือแพทย์ แจกจ่ายทั่วประเทศในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19/ด้านการศึกษาที่มีประสบการณ์บริหารสถาบันการศึกษาที่ใหญ่ระดับประเทศดูแลตั้งแต่เด็กเล็กจนจบปริญญาเอก ดังนั้นมีจึงทักษะในการบริการองค์กรใหญ่ระดับใหญ่ได้เช่นกัน นอกจากนี้ตนมีความรู้ด้านวิศวกรรม และดูงานจากเมืองที่พัฒนาแล้วทั่วโลก เมืองอื่นทำได้ ทำไมกทม.จะทำไม่ได้ พร้อมย้ำว่าต้องการเปลี่ยนกทม.ให้เป็นเมืองสวัสดิการ ทันสมัย ต้นแบบอาเซียน สวัสดิการหมายถึงให้ทุกคนมีโอกาสยืนขึ้นก่อนอย่างมีคุณภาพทั่วถึงและเท่าเทียม
สำหรับบรรยากาศการปราศรัยนั้น ในช่วงก่อนเริ่มงานทีมงานได้จัดเก้าอี้เต็มไว้พื้นที่ แต่เมื่อถึงเวลาเริ่มงานพบว่ามีประชาชนเข้าฟังปราศรัยค่อนข้างบางตาจึงทำให้ทีมงานต้องเก็บเก้าอี้ออกครึ่งหนึ่งของที่จัดไว้