เลขาฯ สมช. ถกที่ประชุม ศปก.ศบค. เตรียมผ่อนคลายมาตรการ ทบทวน Test & Go เพิ่มเงื่อนไขเข้มตรวจ RT-PCR 2 รอบ พร้อมรายงานจุดเดินทาง 7 วัน ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2 เดือน รับ ผู้ปกครองเสนอไม่ตรวจ ATK น่าคิด หวั่นทำระบบสธ.ไทยโกลาหล

 

19 ม.ค. 2565 - พลเอกสุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ศปก.ศบค. ในช่วงเช้าวันนี้ เพื่อพิจารณาผ่อนคลายมาตรการที่จะเสนอเข้าที่ประชุม ศบค.ในวันพฤหัสบดีที่ 20 ม.ค. 2565 นี้ ว่า ในวันนี้จะเป็นการประเมินสรุปสถานการณ์ ตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา นอกจากนี้จะมีการพิจารณาเพื่อผ่อนคลายมาตรการ จะเห็นได้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อและระบบการรักษาพยาบาลเข้าที่เข้าทางมากขึ้น จึงจะมีการผ่อนคลายปรับพื้นที่โซนสีแต่ละจังหวัด เพื่อให้ประชาชนนั้นมีความคล่องตัวขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการตั้งแต่ช่วงสัปดาห์แรกหลังปีใหม่ ให้ประเมินข้อมูลเร่งผ่อนคลายมาตรการในส่วนที่สามารถทำได้ เพื่อให้ประชาชนได้ประกอบอาชีพและมีงานทำ และระบบเศรษฐกิจได้ขับเคลื่อน รวมไปถึงภาคการท่องเที่ยวที่จะนำเม็ดเงินเข้าประเทศ และฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ส่วนความเป็นไปได้ในการอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศในรูปแบบเดิมนั้น พลเอกสุพจน์ กล่าวว่า จริง ๆ ที่คิดไว้แล้วเป็นรูปแบบที่ดีที่สุด เพียงแต่ที่ผ่านมามีประสบการณ์ และที่ประชุมวันนี้จะดูว่ามีจุดอ่อนตรงไหน และต้องปรับตรงไหนในเรื่องของข้อมูลข่าวสาร ระบบควบคุมผู้ที่เดินทางเข้าประเทศให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น

ส่วนจะมีการปรับเงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศในรูปแบบ Test & Go หรือไม่นั้น เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ในระบบ Test & Go เงื่อนไขที่สำคัญคือ หาวิธีการควบคุมผู้ที่เดินทางเข้าประเทศได้ใน 7 วัน เพราะหลัง 7 วันไปแล้วถือว่าปลอดภัย โดยเมื่อผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจะต้องดำเนินการคือ ตรวจคัดกรองเชื้อและต้องอยู่ในการควบคุม หรือ คุมไว้สังเกต ซึ่งจะต้องทราบว่า ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศนั้นจะต้องรู้ว่าอยู่ที่ไหนโดยมีระบบติดตามตัว ซึ่งในวันนี้จะมีมาตรการเพิ่มเติม แต่ไม่ถึงกับขั้นต้องกักตัว 7 วันอย่างแน่นอน และมีการกำหนดชัดเจนว่า ในวันที่ 5 หรือ 6 จะต้องมีการตรวจ RT-PCR อีกครั้งหนึ่ง และเมื่อปลอดภัยก็สามารถเดินทางทั่วประเทศไทยได้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการยกระดับ Test & Go มากขึ้น จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน โดยเป็นการอนุญาตให้ผู้ที่ลงทะเบียนแบบ Test & Go ไว้แล้ว ยังคงเข้าประเทศได้ พร้อมกับย้ำว่า ที่ประชุมในวันนี้จะมีการวางมาตรการที่เข้มข้นขึ้นสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศแบบ Test & Go ส่วนจะกลับมาใช้ Test & Go หรือไม่ นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายว่า ขอให้ประเมินสถานการณ์เป็นหลัก โดยหากประเมินตัวเลขการติดเชื้อ ข้อมูลพื้นที่ การดำเนินชีวิตของประชาชน ความร่วมมือของประชาชนและผู้ประกอบการ ก็น่าจะเป็นทิศทางที่ดี ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็รายงานต่อนายกรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิด

สำหรับการเปิดผับบาร์ ที่ดัดแปลงเป็นร้านอาหาร ที่ก่อนหน้านี้มีการสั่งสำรวจทั้งในส่วนของ กทม.และต่างจังหวัด ก่อนวันที่ 15 ม.ค.นั้น พลเอกสุพจน์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ กทม.และพื้นที่จังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบไปดำเนินการ เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการที่มีลักษณะเป็นผับ บาร์ คาราโอเกะเต็มรูปแบบ ต้องเข้าใจว่า ขณะนี้ยังคงมีความเสี่ยงมากอยู่ โดยหากต้องการปรับต้องปรับไปตามช่องที่มีการเปิดให้ในรูปแบบร้านอาหาร และต้องแจ้งพื้นที่เป็นผู้ประเทศ

ส่วนการที่ก่อนหน้านี้มีการชะลอส่วนต่อขยายพื้นที่สีฟ้า ระยะที่ 2 ใน 13 พื้นที่จังหวัดออกไปนั้น เลขาฯ สมช. ยอมรับว่า จะมีการพิจารณาเพิ่มเติมในวันนี้ โดยจะพิจารณาจากความพร้อมในพื้นที่ ทั้งมาตรการด้านสาธารณสุขที่จะรองรับ เนื่องจากระบบ Sand Box เป็นระบบการรับคนใหม่ที่จะเข้าประเทศมา ซึ่งต้องควบคุมให้ปลอดภัยให้ได้ใน 7 วัน รวมไปถึงความพร้อมของคนในพื้นที่ สถานประกอบการให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด นอกจากนี้จะนำตัวเลขและลักษณะการติดเชื้อมาพิจารณาร่วมกัน เมื่อเทียบกับอัตราส่วนของประชากร และที่สำคัญคือสาธารณสุขจังหวัดและท่องเที่ยวจังหวัดต้องยืนยันว่าพื้นที่นั้นมีความพร้อม

ทั้งนี้ พลเอกสุพจน์ ยังระบุอีกว่า การผ่อนคลายมาตรการบางส่วนนั้นจะเริ่มเลย แต่บางส่วนจะเริ่มผ่อนคลายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป แต่ในวันนี้ที่ประชุม ศปก.ศบค.จะทำข้อสรุปและส่งเข้า ศบค.พิจารณาในวันพรุ่งนี้

ส่วนการปรับมาตรการโซนสี จะอนุญาตให้มีการดื่มสุราในร้านอาหารได้หรือไม่นั้น พลเอกสุพจน์ ยืนยันว่า แต่ละพื้นที่โซนสีจะมีมาตรการควบคุมอยู่แล้ว ซึ่งพื้นที่จังหวัดจะมีการเพิ่มเติมมาตรการออกไปควบคุมในลักษณะต่าง ๆ ตามความจำเป็น

โดย พลเอกสุพจน์ ยืนยันว่า จะมีการต่อขยายการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 2 เดือน ซึ่งเดิมสิ้นสุดในวันที่ 31 ม.ค. 2565 ให้สิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค. 2565 ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามเงื่อนเวลา และยังคงมีความจำเป็น ในการต้องบังคับใช้ในบางกิจกรรมกิจการ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค การเดินทางเข้าประเทศและการห้ามคน

ส่วนข้อเรียกร้องของผู้ปกครองที่ไม่ให้มีการตรวจ ATK หรือ สวมหน้ากากอนามัยตามความสมัครใจของกลุ่มนักเรียน พลเอกสุพจน์ มองว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าคิดและสำคัญมาก อย่างตัวเลขการติดเชื้อในบางประเทศที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งต้องดูจากความเป็นอยู่ลักษณะการดำเนินชีวิตของคน หากไม่ตรวจ ATK หรือสวมหน้ากากอนามัยอัตราการติดเชื้อจะสูงมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขของประเทศ ทั้งในกลุ่มผู้ป่วยโควิดและกลุ่มผู้ป่วยในโรคทั่วไป ซึ่งรัฐบาลมีความใส่ใจในระบบสุขภาพของประชาชน จะเห็นว่ามีการติดเชื้อจะเกิดการโกลาหลอย่างมาก และก่อนหน้านี้กระทรวงศึกษาธิการได้รับมาตรการจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งสถานศึกษาได้พูดคุยกับผู้ปกครอง ซึ่งหากมีข้อมูลใด ๆ ทางศึกษาธิการสามารถแจ้งข้อมูลไปยังที่ประชุม ศปก.ศบค.ได้