ศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ปรับ 1 เเสน แก๊งจ้างเปาเป่าล้มบอล ไทยลีก 2 จำเลยไม่เคยรับโทษมาก่อน ให้รอลงอาญา 2 ปี

 

วันที่ 19 ม.ค. 2565 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีจ้างกรรมการตัดสินลำเอียง คดีดำ อ.1105/2562 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง นายณัฐกร ฉิมพาลี อดีตกรรมการผู้ตัดสิน นายเทอดศักดิ์ ทองกล่ำ อดีตกรรมการผู้ตัดสิน และ ด.ต.หรือนายพงศ์พันธ์ วงศ์สุบรรณ อดีตผู้บริหารสโมสรฟุตบอล ร่วมกันเป็นจำเลย ตามพ.ร บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพฯ พ.ศ.2556 มาตรา 66 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84, 91

จากกรณีเมื่อวันที่ 20 เม.ย.2561 จำเลยที่ 1 และที่ 3 ได้ให้, ขอให้ หรือรับว่าจะให้เงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ นายสุระศักดิ์ หัสจรรย์ จำเลยที่ 2 ซึ่งจะทำหน้าที่ตัดสินการแข่งขันกีฬาฟุตบอลอาชีพรายการไทยลีก 2 (T2) คู่ระหว่าง ทีมสโมสรฟุตบอลสมุทรสาคร เอฟซี กับ ทีมสโมสรฟุตบอลระยอง เอฟซี ซึ่งจะแข่งขันในวันที่ 21 เม.ย. 2561 เวลาประมาณ 19.00 น.ที่ สนามกีฬากลางจ.สมุทรสาคร โดยจะมอบเงินจำนวนเท่าใดไม่ปรากฏชัด เพื่อจูงใจนายสุระศักดิ์ ให้ทำหน้าที่ตัดสินอย่างไม่ถูกต้อง เที่ยงธรรม โดยให้นายสุระศักดิ์ เข้าข้างหรือช่วยเหลือให้ทีมสโมสรฟุตบอลสมุทรสาคร เอฟซี ชนะทีมสโมสรฟุตบอลระยอง เอฟซี อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

การกระทำของจำเลยที่ 1 และ 3 ซึ่งเป็นผู้ใช้ให้จำเลยที่ 2 กระทำความผิด จึงต้องรับโทษเสมือนเป็นตัวการเช่นเดียวกับจำเลยที่ 2 ผู้ถูกใช้ในการกระทำผิด โดยจำเลยทั้งสาม ให้การรับสารภาพ และได้รับการประกันตัว

ศาลมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติ สืบเสาะ ประวัติ การศึกษา ประวัติครอบครัว และอื่น ๆ ของจำเลยทั้งสาม แล้วส่งให้ศาลใช้ประกอบการพิจารณาเพื่อมีคำพิพากษา

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยทั้งสามกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพฯ พ.ศ. 2556 มาตรา 66

ส่วนจำเลยที่ 3 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. 2556 มาตรา 66 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 จำคุกจำเลยทั้งสามคนละ 1 ปี และปรับคนละ 200,000  บาท

จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยไว้คนละ 6 เดือน ปรับคนละ 100,000 บาท

พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีประกอบรายงานการสืบเสาะและพินิจจำเลยทั้งสามแล้วนิสัยและความประพฤติโดยทั่วไปของจำเลยทั้งสามไม่ปรากฏข้อเสียหายร้ายแรง เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสามได้รับโทษจำคุกมาก่อน เห็นสมควรให้โอกาสจำเลยทั้งสามกลับตัวเป็นพลเมืองดีสักครั้ง โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ให้คุมความประพฤติจำเลยทั้งสาม โดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือนต่อครั้ง ภายในกำหนด 1 ปี และให้กระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณะประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30