"สุพัฒนพงษ์" แจงราคาสินค้าพุ่งมาจากหลายปัจจัย ยืนยันรัฐบาลไม่ได้ละเลย พยายามตรึงราคาสินค้าไม่ให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง แย้ม 'คนละครึ่ง' เฟส 4 อาจขยับให้เร็วขึ้น

 

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึง กรณีราคาสินค้าบริโภคที่พุ่งสูงในขณะนี้ ว่า รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีพยายามแก้ไขปัญหาอยู่ และต้องดูด้วยว่าสินค้าแพงนั้นอยู่ในสินค้าใด และปัจจัยใด ซึ่งรัฐบาลได้หารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยมาโดยตลอด เรื่องอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในเป้าหมาย สภาพัฒน์ฯ และการพยากรณ์ของหลายสถาบัน ก็เชื่อได้ว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยอยู่ที่ 1-3 % จะดูเฉพาะเจาะจงบางสินค้าไม่ได้ ทั้งนี้ มีการเตรียมรับมือและไม่ได้มีการประมาทแต่อย่างไร ซึ่งบางส่วนที่ตรึงไว้ได้ก็ตรึง แต่บางส่วนก็ต้องเป็นไปตามกลไกตลาดเสรี ต้องพยายามเพิ่มการผลิตให้มากขึ้น ในกรณีที่เกิดความขาดแคลน พร้อมกับย้ำว่า ไม่อยากให้ประชาชนไปเฝ้ามองเพียงราคาสินค้าใดสินค้าหนึ่ง

ทั้งนี้ หากอัตราเงินเฟ้อขยับกรอบเข้าใกล้แตะเพดานในอัตรา 3% จะมีการเรียกประชุมฉุกเฉินหรือไม่นั้น นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า มีการติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลมีความห่วงใย และนายกรัฐมนตรีเองก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้อยู่แล้ว และจะมีการติดตามอย่างใกล้ชิด และจะมีการประชุมกับกระทรวงการคลังอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้ละเลย แต่ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก และก็ได้เห็นในหลายเรื่องที่รัฐบาลพยายามตรึงราคา เพื่อไม่ให้ผลกระทบเรื่องนี้เกิดขึ้นในวงกว้าง และคิดว่าสถานการณ์เป็นเรื่องชั่วคราว การตรึงราคาบางส่วนจึงเป็นประโยชน์ และทำให้ไม่เกิดการตื่นกระแสมากเกินไป จนกระทั่งผู้ประกอบการตัดสินใจขึ้นราคาสินค้า

ส่วนต้องมีมาตรการทางการคลัง หรือมาตรการคนละครึ่ง ลงมาช่วยหรือไม่นั้น นายสุพัฒนพงษ์ ระบุว่า ขณะนี้ได้มีกำหนดการหารือร่วมกับกระทรวงการคลังในการประเมินสถานการณ์ คงไม่ได้ดูสถานการณ์เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ต้องดูสถานการณ์โลกด้วย ขณะที่ช่วงโควิดที่ผ่านมาการผลิตมีการชะลอตัว เนื่องจากการลงทุน การแพร่ระบาด การล็อกดาวน์ ผู้ประกอบการจึงยังไม่กล้าขยายกำลังการผลิต และบางส่วนของสินค้าก็ยังมีการระงับจากการแพร่ระบาดของโอมิครอน ซึ่งมีหลายปัจจัยหลายอย่างเป็นองค์ประกอบ แต่ก็ยังถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว การผลิตน่าจะมีมากขึ้นหากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังสามารถควบคุมได้ดี หรือประเทศการผลิตเปิดประเทศแล้ว ก็จะเดินหน้าการผลิตกลับสู่สภาพเดิมได้ 

ส่วนความเป็นไปได้ที่จะขยับโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ให้เร็วขึ้นนั้น นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ก็เป็นไปได้หมด แต่ต้องประเมินอีกครั้งหนึ่ง หรืออาจจะมีมาตรการอื่น ๆก็ได้ ขณะนี้กำลังดูอยู่อีกหลายมาตรการ

ส่วนกรณีมีการตั้งข้อเสนอว่า รัฐจำเป็นที่จะต้องใช้เงินก้อนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ นายสุพัฒนพงษ์ ระบุว่า เป็นเรื่องที่สภาพัฒน์ฯ ได้ศึกษาการสร้างเศรษฐกิจพื้นฐานให้กับท้องถิ่นให้มากที่สุด