เรือสินค้าปริศนาไร้ลูกเรือจมแล้ว หลัง จนท.พยายามลากเข้าฝั่ง ทัพเรือภาค 2 เชื่อเป็นเรือถูกทิ้ง หลังถอนอุปกรณ์สำคัญออกหมด คาดมาจากฝั่งเพื่อนบ้าน

 

วานนี้ (8 ม.ค. 2564) พลเรือโทสุนทร ดำคล้าย ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ทัพเรือภาคที่ 2 รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่แท่นขุดเจาะน้ำมันแห่งหนึ่ง ตรวจพบเรือไร้สัญชาติปริศนาลอยเข้ามาใกล้แท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะสมุยประมาณ 70 ไมล์ทะเล จึงสั่งการให้อากาศยานไร้คนขับและเรือ ต.113 ออกลาดตระเวนค้นหา ในเวลา 22.00 น. คืนวันที่ 5 ม.ค. 2565 พบเรือปรากฏชื่อ 'FIN SHUL YUEN 2' บริเวณ แลต. 8 องศา 45.09 ลิปดาเหนือ ลอง. 101 องศา 17.88 ลิปดาตะวันออก หรือระยะทางประมาณ 100 ไมล์ทะเล ทิศทาง 025 จากปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลา

จากการตรวจสอบพบว่า เรือดังกล่าวมีลักษณะคล้ายเรือสินค้า ความยาวประมาณ 80 เมตร ไม่มีสินค้าในระวาง และไม่มีลูกเรือแม้แต่คนเดียว ที่ตัวเรือมีภาษาจีน แต่ไม่มีหมายเลขเรือ หมายเลขท้ายเรือถูกลบ และไม่มีการพักอาศัยของคนประจำเรือ ไม่มีสมอและโซ่สมอ สภาพในเรือมีน้ำท่วมภายในตัวเรือ ในห้องเครื่องไฟฟ้า และเครื่องจักรใหญ่ ตัวเรืออยู่ในลักษณะเอียงประมาณ 35 องศา จากนั้นเรือ ต.113 ส่งเจ้าหน้าที่เข้าทำการสูบน้ำออกจากเรือ เพื่อให้เรือทรงตัวอยู่ได้ ไม่จมลงสู่ใต้ทะเล ซึ่งจะเป็นผลกระทบต่อความปลอดภัยในเส้นทางเดินเรือ

 

 

เมื่อถึงช่วงกลางเรือดังกล่าว เรือ ต.113 สามารถสูบน้ำออกจากเรือได้ในระดับหนึ่ง แต่ต้องถอนกำลังออก เนื่องจากสภาพอากาศที่มีคลื่นลมแรงจนเรือกระแทกกันไปมา อาจเกิดความเสียหายกับเรือ ต.113 และไม่ปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงาน เพราะการสูบน้ำต้องอาศัยไฟฟ้าจากเรือ ต.113 ที่เทียบข้างกับเรือเป้าหมาย ซึ่งการสูบน้ำช่วยให้เรือดังกล่าวสามารถทรงตัวได้ดีขึ้น จากนั้น พลเรือตรีสุรศักดิ์ ประทานวรปัญญา รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 (ศรชล.ภาค 2) บูรณาการหน่วยในโครงสร้างร่วมตรวจสอบเรือเตรียมการรับเรือเข้าฝั่ง และติดตามหาเจ้าของเรือ

"ศรชล.ภาค 2 ให้ความสำคัญกับปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นผลกระทบต่อการรักษาผลประโยขน์ของชาติโดยตรง หากเกิดปัญหาเรือจมกลางทะเลก็จะเกิดปัญหาการรั่วไหลของน้ำมันเชื้อเพลิงในเรือที่ยังมีอยู่ และยังไม่สามารถตรวจสอบปริมาณที่ชัดเจนได้ หากรั่วไหลออกมาก็จะสร้างปัญหาต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล หากเรือจมก็จะส่งผลกระทบต่อเส้นทางเดินเรือ และการใช้ประโยชน์จากทะเล ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นผลกระทบต่อผลประโยชน์ทางทะเลโดยตรง ดังนั้น ศรชล. จะพยายามแก้ปัญหาให้ดีที่สุด" พลเรือโทสุนทร กล่าวทิ้งท้าย

 

 

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (9 ม.ค. 2565) เฟซบุ๊ก "Wassana Nanuam" เผยแพร่ข้อความระบุว่า "เรือร้าง เรือผีสิง จม แล้ว!! ทัพเรือภาค 2 เชื่อ ไม่ได้ถูกปล้น แต่ตั้งใจทิ้ง ตรวจสอบชื่อเรือ Fin Shui Yeun2 ไม่มีในประวัติเรือที่แจ้งถูกปล้น ในแถบนี้ ไม่มีโจรสลัด พบเป็นชื่อเรือที่ไม่มีในระบบภาษาจีน ไม่มีชื่อภาษาอังกฤษ คาดกันว่าเป็นเรือจากแถวเวียดนาม หรือ น่านน้ำเขมรที่ตั้งใจจะทิ้ง ตัดสมอ โซ่เรือ พยายามลบชื่อ แล้วปล่อยให้ลอยไปเรื่อย ๆ เรือเก่า โทรมมากแล้ว น้ำท่วมในเรือ 15% ทัพเรือภาค 2-ศรชล.ภาค 2 ส่งเรือหลวงตาปีไปช่วยเรือ ต.113 ขณะที่ทหารเรือ พยายามลากเรือเข้าฝั่ง น้ำเข้าทางตะเข็บเรือจนจมลง เมื่อคืน 8 ม.ค.2565 ห่างจาก ชายฝั่ง อ.สิชล ราว 28 ไมล์ทะเล จากการประเมินของทหารเรือ ที่ไปสำรวจเรือ พบว่า ที่สะพานเดินเรือก็ถูกตัดอุปกรณ์สำคัญต่าง ๆ รวมทั้งเรดาร์ออกไปแล้วก่อนทิ้งเรือ"