เรียกได้ว่าได้รับเสียงฮือฮาไม่น้อย สำหรับละคร "ร่านดอกงิ้ว" ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง8 ตั้งแต่ทีเซอร์ตัวแรกออกมาอย่างเป็นทางการ ผ่านเรื่องราวของตัวแม่แห่งวงการบันเทิงรับบทนำโดย "ยุ้ย-จีระนันท์ มะโนแจ่ม" แต่หลายคนคงสงสัยกันไม่น้อยว่าชื่อละครที่แรง และแซ่บ จนหลายคนสะดุ้งขนาดนี้

ผู้เขียนบทโทรทัศน์คนเก่งอย่าง “เบญจธารา โอฬารนิธิกุล” นามปากกา “การเวกต้องการจะสื่อถึงอะไร ทำไมต้อง “ร่าน” และ “ดอกงิ้ว” ถึงมาเป็นชื่อละครรสแซ่บแห่งปี ที่หลายคนรอคอย ซึ่งวันนี้เรามาไขความกระจ่างไปพร้อมกัน

ทำไมถึงเขียนเรื่อง ร่านดอกงิ้ว และ ร่าน หมายความว่าอย่างไร ?

             มันเป็นโจทย์ที่ได้รับมาค่ะ เป็นบทประพันธ์ที่ทางผู้จัดส่งมาให้ แล้วด้วยตัวเรื่องมันก็มีความน่าสนใจที่อยากนำเสนอ คำว่า “ ร่าน ” สำหรับละครเรื่องนี้ เราตีความคำว่า “ ร่าน ” เท่ากับคำว่า “ อยาก ” ความอยากของคนที่มันเกิดจาก “ กิเลส ” อยากได้ อยากมี อยากรัก อยากเป็น หรือแม้กระทั่ง อยากถูกรัก ทุกอย่างถูกตีความว่า “ ร่าน ”

ทำไมต้องเป็นดอกงิ้ว ?

            เพราะปกติแล้วคำว่า “ ร่าน ” เราจะใช้คู่กับการมีศีลข้อ 3 แต่ด้วยความที่เรื่องนี้ จะซัพพอร์ตกับความอยากของคน พอพูดถึงเรื่องของกิเลสในมนุษย์ เราจะใช้คำว่า “ร่าน” มาแทน แล้วพอต่อด้วย “ดอกงิ้ว” มันก็จะพอดีกับในส่วนของคำที่นำมาใช้ด้วยกันได้อย่างเหมาะสม เพราะมันคือผลผลิตจากต้นงิ้ว ซึ่งต้นงิ้ว บ้านเรามีความเชื่อว่าเป็นต้นไม้ที่อยู่ในนรก เอาไว้ทำโทษคนที่ชอบทำผิดศีลข้อ 3 จากบาปกรรมที่คนทำไว้

ความแรงของละครเรื่องนี้ ?

            มันจะแรงสุดเท่าที่คนๆนึง ที่มีความต้องการ ทะยานอยากในสิ่งนั้นๆ ซึ่งความแรงของมันก็จะสะท้อนความต้องการของตัวละคร เพราะว่าทุกคนมีเหตุผล มีเป้าหมายของตัวเอง ซึ่งเป้าหมายหรือเหตุผลนั้นอาจจะไม่ถูกต้อง แต่ถูกใจ นี่คือสิ่งที่ทำให้ทุกคน “ ร่าน ”

สิ่งที่อยากนำเสนอเกี่ยวกับ ร่านดอกงิ้ว ?

            ตัวละครทุกตัว ที่สะท้อนให้เห็นว่า เวลาที่เราเดินตามความอยากของตน โดยไม่สนใจความถูกต้อง สุดท้ายแล้ว ผลสะท้อนที่มันได้กลับมา มันจะทำร้ายทั้งตนเองและคนรอบข้าง นั่นคือการที่ ทำไมเวลาที่เราตกอยู่ในสภาพของกิเลส ตัณหาที่ครอบงำ ในส่วนของตัวละครทุกตัวมีกิเลสหมด แล้วแต่ว่าตัวละครตัวไหนจะมีสติปัญญากำกับ และทำให้ชีวิตเดินผ่านอุปสรรคต่างๆ หรือความเลวร้ายไปได้ โดยเฉพาะอย่างตัวสร้อยสน ที่นำพาชีวิตตัวเองไปสู่ความวิบัติ ด้วยความอยาก อยากที่จะได้รักกับพิทูร และปล่อยตัวปล่อยใจ โดยที่ไม่ได้มองถึงข้างหน้า หรือไม่ได้คำนึงถึงความถูกต้อง

แสดงว่าอยากจะสอนว่า ความความลุ่มหลง ไม่ทำให้คนเกิดปัญญา?

           ใช่ค่ะ ซึ่งจะเห็นได้ว่าตัวละครสร้อยสน ไม่ได้มีสติปัญญากำกับ อยู่ในความหลงจนลืมคิด และเกิดเรื่องราวมากมาย ส่วนตัวของเพ็ญโพยม เป็นความอยาก ที่อยากได้คนที่คนรัก มาครอบครอง โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง และความถูกต้องใดๆ ขอเพียงให้ได้มาเพื่อเติมเต็มให้ตัวเอง และนั่นทำให้ตัวเองได้รับบทเรียน ที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิตเช่นกัน

คำว่า “ร่าน” ไม่ใช่เป็นคำที่ไว้ว่ากล่าวผู้หญิงอย่างเดียว?

           จริงๆ เรื่องราวมาจากความ “ร่าน” ของตัวพิทูร เป็นตัวต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดของความ “ ร่าน ” ในเรื่องนี้ พิทูรเป็นคนอยากได้ อยากมี อยากพิสูจน์ตัวเอง เป็นคนที่ต้องการทุกอย่าง แต่ไม่มีความสามารถ จึงต้องอาศัยการเกาะผู้หญิง เพื่อหาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง หรือการที่อยากจะมีอำนาจด้วยการล้อเล่นกับความรู้สึกผู้หญิง เห็นผู้หญิงเป็นดอกไม้ริมทาง เพื่อให้ตัวเองรู้สึกมีพาวเวอร์ สุดท้ายแล้วสิ่งที่พิทูรทำทั้งหมด สร้างผลกระทบให้กับตัวละครทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นสร้อยสน เพ็ญโพยม หรือแม้แต่ตัวลูกสาวเองก็เช่นกัน สิ่งที่ตัวพิทูรทำกับทุกคนมันย้อนกลับมากระแทกเขาอย่างรุนแรงที่สุด จนไม่มีโอกาสที่จะได้เปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงตัวเองอีกต่อไป

ฝากละคร “ร่านดอกงิ้ว”

          อยากจะให้แฟนๆดูละครให้ครบทุกตอนโดยที่ไม่ตัดสินเขา เพียงแค่ใน 1 นาที ที่คุณได้เห็น แล้วคุณจะรู้ว่า เหตุผลของตัวละคร และสิ่งที่เขาควรได้รับจะเป็นอย่างไร การเดินทางของตัวละครทุกตัวจะนำพาให้คุณผู้ชมได้เรียนรู้ในชีวิตของคนที่มีความอยาก โดยที่ไม่มีขอบเขต ไม่มีสติปัญญากำกับ สุดท้ายแล้วชีวิตของคนที่เดินตามความหลงและกิเลส จะจบลงเช่นไร ฝากละครเรื่อง “ร่านดอกงิ้ว” ด้วยนะคะ วันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. รับรองว่าสนุก แซ่บ ครบรส สะใจแน่นอนค่ะ