'นายกฯ' อารมณ์ดี ควง 'บิ๊กป๊อก-สุชาติ' ลงพื้นที่เมืองเพชร ส.ส.พปชร. -ปชช.รอต้อนรับ อธิษฐานศาลเจ้าพ่อกวนอู ขอประเทศชาติปลอดภัยสงบสุข

วันที่ 22 ก.ย.2564 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ การบริหารจัดการน้ำ และแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมลุ่มน้ำเพชรบุรี และเตรียมความพร้อมการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยว (Sandbox)

จุดแรก นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางไปตลาดท่ายาง ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่ของ จ.เพชรบุรี เพื่อเยี่ยมเยียนประชาชน พบปะพ่อค้าแม่ค้า รวมถึงข้าราชการในพื้นที่ โดยมีส.ส. พรรคพลังประชารัฐมารอต้อนรับ เช่น ส.ส.เพชรบุรี ประกอบด้วยนายกฤษณ์ แก้วอยู่ นายสาธิต อุ๋ยตระกูล นายสุชาติ อุสาหะ และนายกอบจ.นายชัยยะ อังกินันทน์

ส่วน จ.กาญจนบุรีมีพลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ และนายอรรถพล โพธิพิพิธ ยกเว้นนายสมเกียรติ วอนเพียร ที่ไปรับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา

ขณะที่ จ.ราชบุรี มีนางสาวกุลวลี นพอมรบดี นางบุญยิ่ง กาญจนา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส่วนนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ไปต้อนรับพลเอกประวิตรเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีนางสาวจิตภัสร์ กฤดากร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมาปฏิบัติภารกิจที่จ.เพชรบุรี มาร่วมต้อนรับนายกรัฐมนตรีด้วย

ระหว่างเดินพบปะทักทายประชาชนที่ตลาดท่ายางนายกรัฐมนตรี ได้บอกให้ประชาชนยืนเว้นระยะห่าง เพื่อความปลอดภัย ขณะที่ชาวบ้านที่มารอต้อนรับได้ตะโกนให้กำลังใจว่า "รักลุงตู่ ลุงตู่สู้ ๆ" ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวตอบว่า "สู้ไหวหรือเปล่าเนี่ย" โดยชาวบ้านได้ขอถ่ายรูปร่วมกับนายกฯ และมอบของเป็นที่ระลึกเป็นผลผลิตทางการเกษตรและขนมหวานของดีเมืองเพชรให้อีกด้วย ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำว่าคนไทยทุกคนต้องรักกัน ให้รักประเทศชาติ รักสถาบัน รักพลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ทำงานให้เราทุกคน

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ทักทายเจ้าหน้าที่และข้าราชการส่วนท้องถิ่นที่มารอต้อนรับ พร้อมกล่าวว่า วันนี้ถ้าไม่ร่วมมือกัน นายกฯ คนเดียวทำไม่ได้และขอบคุณทุกคน รวมทั้งส.ส. หากไม่ช่วยกันก็ทำไม่สำเร็จสักอย่าง ก่อนที่นายกฯ นำตะโกน "เพชรบุรีสู้ ๆ ท่ายางสู้ ๆ"

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เข้าสักการะศาลเจ้าพ่อกวนอู โดยอธิษฐานว่า ขอให้ประเทศชาติปลอดภัยสงบสุข และขอให้ทำงานสำเร็จ เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนที่ยั่งยืน ซึ่งแก้ปัญหาเป็นแบบแผนต่อ ๆ กันไป หากแก้แบบเดิมก็ได้แบบเดิม โดยยืนยันว่าจะทำให้

นายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่าการลงพื้นที่วันนี้ มาให้กำลังใจชาวท่ายางและทุกคน ต้องร่วมมือไปด้วยกัน ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น รวมทั้งการรับฟังคิดเห็นต่าง ๆ ก็ผ่านส.ส.ที่รับฟังอยู่แล้ว หากอะไรทำได้ก็จะทำ โดยขอให้เชื่อมั่นการทำงานร่วมกันฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ รวมทั้งการทำงานของรัฐบาล

ระหว่างพูดคุยกับชาวบ้าน มีเด็ก ๆ ตะโกน "ลุงตู่สู้ๆเป็นระยะ" ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้หยอกล้อ และร่วมถ่ายรูปกับเด็ก ๆ พร้อมย้ำว่า "ลุงทำเพื่อพวกเรานะ" ก่อนถามว่านายกฯชื่ออะไร เด็ก ๆ ได้ตอบว่าชื่อลุงตู่ นายกฯจึงต่อว่าแล้วลุงตู่ชื่อจริงว่าอะไร เด็กๆตอบไม่ได้ ทำให้พลเอกประยุทธ์ แก้เก้อว่า ไม่เป็นไร เรียกแค่ลุงตู่ก็พอ

ตลอดการลงพื้นที่ในวันนี้นายกรัฐมนตรีทักทายประชาชนอย่างอารมณ์ดี มีการเดินเข้าไปแซวเซียนพระที่มีสวมสร้อยพระองค์ใหญ่ นอกจากนี้ยังเหมาสินค้าของแม่ค้าตลาดท่ายางด้วย

จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางต่อไปยังโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี (เขื่อนเพชร) ต.ท่าคอย อ.ท่ายาง เพื่อตรวจสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำและแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมลุ่มน้ำเพชรบุรี

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการลงพื้นที่แต่ละครั้งว่า เพราะมีความห่วงใยประชาชน ตั้งใจมารับฟังข้อมูลและรับทราบปัญหาในแต่ละพื้นที่โดยตรง รวมทั้งให้ความสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกพื้นที่ โดยมอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีแผนแม่บทในการบริหารจัดการน้ำที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ โดยกำหนดแผนแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำอุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตรและน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม เพื่อความมั่นคงทางด้านน้ำในอนาคต โดยให้เป็นไปตามแผนการจัดสรรน้ำที่สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีน้ำใช้อย่างเพียงพอและลดผลกระทบในช่วงฤดูน้ำหลากด้วย

นายกรัฐมนตรียังกำชับว่า ในการเสนอของบประมาณจะต้องเป็นแผนงานที่ทำได้จริง แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด พร้อมทั้งวางแผนใช้งบประมาณแบบต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์ ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญในการใช้งบประมาณแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งทุกภาคส่วนทั้งส่วนราชการ ส.ส. และประชาชนต้องร่วมมือกัน เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนในระยะยาว พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังได้เน้นย้ำให้ส่วนราชการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่เกษตรกร ในการปรับเปลี่ยนแนวคิด พฤติกรรมการทำการเกษตรให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และความต้องการของตลาด เพื่อพลิกโฉมประเทศไทยด้านอุตสาหกรรมการเกษตร สร้างรายได้ เพิ่มมูลค่าให้กับภาคการเกษตรมากขึ้น

สำหรับการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากอยู่บ่อยครั้ง กรมชลประทาน ได้ดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่างอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยควบคุมการระบายน้ำที่เขื่อนเพชรให้ไหลลงสู่แม่น้ำเพชรบุรีในอัตรา 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อลดผลกระทบด้านท้ายน้ำ ที่ อ.เมือง น้ำส่วนที่เหลือจะถูกผันน้ำเข้าระบบส่งน้ำและระบบระบายน้ำของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่างฯ ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ซึ่งเป็นการบริหารจัดการลุ่มน้ำเพชรบุรีทั้งระบบ ที่ได้กำหนดแนวทางการเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำเพชรบุรีออกสู่ทะเลอ่าวไทย ด้วยการปรับปรุงคลองระบายน้ำ คลองส่งน้ำ และการขุดขยายคลอง ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ หากโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จทั้งหมด จะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน