โควิด-19 ในเรือนจำดีขึ้น 'สมศักดิ์' เผยผู้ต้องขังรักษาหายเเล้วเฉียด 6 หมื่นคน ไม่พบติดโรคใน 114 เเห่ง มั่นใจทุกคนต้องได้รับวัคซีนครบสองเข็ม กำชับผู้เกี่ยวข้องติดตามให้จบใน ต.ค.

 

วันที่ 22 ก.ย. 2564 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมผ่านระบบคอนเฟอร์เรนซ์ โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมผู้บริหารจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมประชุม

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ระบาด ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อในเรือนจำ แต่บริษัทต่าง ๆ ที่ให้การช่วยเหลือบริจาคยาฟ้าทะลายโจร หน้ากากอนามัย และอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ ส่งผลให้สถานการณ์ดีขึ้นอย่างมาก ไม่พบการแพร่ระบาดในเรือนจำ 114 แห่ง มีนักโทษติดโควิด-19 ได้รับการรักษาจนหาย 59,119 ราย ส่วนกรมควบคุมโรคพร้อมสนับสนุนวัคซีนซิโนแวคเข็มแรกให้ผู้ต้องขัง 240,000 โดส ที่ส่งให้ภายใน ก.ย.และวัคซีนเข็มที่สองจะมาภายใน ต.ค. ดังนั้นต้องประสานให้จบภายใน ต.ค.นี้

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีเรือนจำยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 47 แห่ง ผู้ต้องขัง 162,550 คน ยืนยันว่ากรมราชทัณฑ์ดูแลผู้ต้องขังทุกคนตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งผู้ต้องขังจะต้องได้รับวัคซีนครบทั้งสองเข็มโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ญาติพี่น้องเกิดความสบายใจต่อการดูแลของกรมราชทัณฑ์

 

"นโยบายสำรองยาฟ้าทะลายโจร 50 เม็ด ต่อผู้ต้องขัง 1 คน ขณะนี้เรือนจำต่าง ๆ มียาสำรองครอบคลุมทุกแห่งแล้วเฉลี่ย 64 แคปซูลต่อคน ซึ่งยาฟ้าทะลายโจรในคลังสำรองของเรือนจำทั่วประเทศมีอยู่ 18.6 ล้านแคปซูล ส่วนสำรองส่วนกลางมีอยู่ 2 ล้านแคปซูล อีกเรื่องคือ งบค่าอาหารผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งยังค้างผู้ส่งอาหาร 2-3 พันล้านบาท ได้หารือกับผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ที่ให้ทำเรื่องของบกลาง ขอให้ช่วยกันติดตามเรื่องด้วย เพราะหากผู้ส่งไม่ส่งอาหารให้เรือนจำ ผู้ต้องขังไม่มีอาหารกิน กลัวจะยุ่งเกิดความวุ่นวายได้ ขอให้ข้าราชการใส่ใจ ทำทุกกระบวนการให้รวดเร็ว" นายสมศักดิ์ กล่าวระหว่างการประชุม