โฆษกดีอีเอสแจง ยังไม่มีสัญญาณการก่อตัวพายุใกล้ไทย ส่วน 20–27 ก.ย. ไทยมีฝนเพิ่มขึ้น แต่เกิดจากมรสุม และหย่อมความกดอากาศต่ำ


(20 ก.ย.2564) นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า ตามที่ได้มีคลิปวิดีโอแจ้งเตือนสภาพอากาศเกี่ยวกับเรื่อง พายุ 2 ลูกจ่อถล่มประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 20–26 ก.ย. นี้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

โดยทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า จากข้อมูลผลการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 20–27 ก.ย. ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนหนักบางพื้นที่ ซึ่งอาจจะแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก 20–23 ก.ย. 2564 ฝนที่ตกหนักเกิดขึ้นจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคอีสานและกลาง และช่วงที่ 24–28 ก.ย.2564 เกิดจากอิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับในช่วงดังกล่าวคาดว่าจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง และเคลื่อนตัวเข้าสู่ใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ซึ่งจะส่งผลทำให้ประเทศไทยโดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง (รวมกทม. และปริมณฑล) ภาคตะวันออก มีฝนตกหนักต่อเนื่อง

ทั้งนี้หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงดังกล่าว จะแรงขึ้นเป็นพายุได้หรือไม่ ยังต้องติดตามเป็นระยะ ๆ เนื่องจากยังมีปัจจัยและสิ่งแวดล้อมที่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลง แต่ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณการก่อตัวพายุใกล้บริเวณบ้านเรา ยังคงต้องติดตามข่าวพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

โดยช่วงวันที่ 19–25 ก.ย.2564 ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอมพายุ 2 ลูกจ่อถล่มประเทศไทย วันที่ 20-26 ก.ย. นี้ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ นอกจากนี้สามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม
ไลน์ @antifakenewscenter
เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com/
ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand
และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 ได้ตลอด24ชั่วโมง