พรรคก้าวไกลแถลง 10 ผลงานในสภา ยืนยันเกาะติดเร่งเครื่องฟ้อง 'ประยุทธ์-รัฐมนตรี’ ต่อ เผยไม่หวั่นเปลี่ยนระบบเลือกตั้ง พร้อมสู้ทุกกติกา เดินหน้าปักธงประชาธิปไตย

 

19 ก.ย.2564 ที่อาคารอนาคตใหม่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล เเถลงข่าวต่อสื่อมวลชน สรุปงานในสภาผู้แทนราษฎรสมัยประชุมล่าสุดที่เพิ่งจบลง รวมถึงเปิดเผยความคืบหน้าในการฟ้องคดีต่อผู้เกี่ยวข้องอันเป็นผลสืบเนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา โดยกล่าวถึง 10 ประเด็นสำคัญ ได้แก่

ประเด็นเเรก วันที่ 16 ส.ค. กรณีการชุมนุมหน้า สน.ดินแดง มีวัยรุ่น 2 คน ถูกยิงในระหว่างที่มีเหตุสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่ง กมธ.พัฒนาการเมืองฯ ได้เปิดรายงานสืบสวนข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชนไปแล้ว มีข้อสันนิษฐานว่า บุคคลต้องสงสัยที่ก่อเหตุน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่หลังจากเราเปิดเผยรายงานนี้ออกไปยังคงไม่มีความคืบหน้าใดจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตาม เราจะติดตาม ตรวจสอบ เพื่อเอาคนกระทำผิดมาลงโทษให้จงได้ และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำเพื่อพิทักษ์สันติราษฎร์ มิเช่นนั้นจะส่งผลต่อความเชื่อถือของประชาชนเเละกระบวนการยุติธรรมในอนาคต

ประเด็นที่ 2 พรรคก้าวไกล สนับสนุนภาคประชาชนในการจัดทำ ร่างพระราชบัญญัติการป้องกันและปราบปรามการซ้อมทรมาน เเละป้องกันมิให้บุคคลสูญหาย ซึ่งได้ผ่านวาระเเรกเรียบร้อยแล้ว จะมีการประชุมครั้งเเรกในวันที่ 5 ต.ค.นี้ จึงคาดหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นักวิชาการ ประชาชนที่เข้ามานั่งเป็นกรรมาธิการ ในการจัดทำร่างกฎหมายฉบับนี้ เพื่อให้เป็นหลักประกันในชีวิตของประชาชน

ประเด็นที่ 3 การอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคก้าวไกล้ได้ทลายระบอบปรสิต อาทิ กรณี ส.ส.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ที่ได้อภิปรายทำให้สังคมเห็นความไม่ชอบมาพากลในการจัดการปัญหาโควิด มีการเปิดเผยสัญญาในเรื่องการจัดซื้อวัคซีนแอสตราเซนเนก้า แต่บทบาทตรงนี้ยังไม่จบ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องขุดค้ยกันต่อ ยังมีหลายเรื่องที่ต้องร้องต่อไปที่ ปปช.หรือองค์กรอิสระต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการตรวจสอบต่อไป

ประเด็นที่ 4 การอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ซึ่งมียอดสูงถึง 3.1 ล้านล้านบาท ทางกรรมาธิการได้ตัดลดงบประมาณได้จำนวน 1.6 หมื่นล้านบาท เรามีความหวังว่าจะนำเงินก้อนนี้ไปอุดช่องโหว่ให้แก่พี่น้องประชาชน แต่ที่ประชุมกลับมีความเห็นให้โอนเข้างบกลางเป็นงบประมาณที่ พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี สามารถใช้ได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม เราก็ได้อภิปรายเพื่อขอให้ตัดลดงบประมาณที่ไม่จำเป็นในหลายกระทรวง รวมถึงงบประมาณในหน่วยงานหรือโครงการที่เกี่ยวข้องกับสถาบันที่มีความซ้ำซ้อน หรือไม่มีรายละเอียด

ประเด็นที่ 5 การยื่นเสนอกฎหมายสำคัญเข้าสู่การพิจารณาของสภา หนึ่งในนั้นคือ การยื่นเสนอร่างกฎหมายเพื่อเอาผิดศาล อัยการ และเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรมในฐานบิดเบือนกฎหมาย โดยหวังว่าจะสามารถนำกระบวนการยุติธรรมที่โปร่งใสมาคืนแก่สังคมไทยได้

ประเด็นที่ 6 ติดตามเรื่องการคอร์รัปชันให้สินบน หนึ่งในนั้นคือ กรณีข่าวที่เป็นที่จับตาจากทั่วโลก จากการที่มีชื่อผู้พิพากษาของประเทศไทยไปมีเอี่ยวในการรับสินรถยนต์แบรนด์หนึ่ง ซึ่งเป็นรายงานที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาเเต่เชื่อมโยงมายังประเทศไทย โดยเรื่องนี้ พรรคก้าวไกลได้ร้องไปยัง กมธ.ปปช. และกำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนสอบสวนข้อมูลดังกล่าว ขอให้ประชาชนติดตาม เพราะเราจะไม่ยอมให้ใคร แม้ใหญ่มาจากไหน สามารถใช้อำนาจตนในเรื่องของคอร์รัปชันได้

ประเด็นที่ 7 ชำเเหละ พ.ร.ก. ซอฟต์โลน หรือ สินเชื่อช่วยเหลือ sme และชำเเหละ พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้าน ประชาชนที่สนใจสามารถติดตามได้ทางช่องทางสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ของพรรค

ประเด็นที่ 8 การตั้งกระทู้สด กระทู้ทั่วไปต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี แต่เป็นเรื่องน่าเสียดายที่นายกรัฐมนตรีไม่มาตอบเเละชี้เเจงต่อสภาเลย ทั้งที่บางประเด็นมีเพียงนายกรัฐมนตรีเท่านั้นที่สามารถให้คำตอบได้ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นตั๋วช้าง ตำรวจราบในพระองค์ เเละคดี บอส อยู่วิทยา โดยพรรคก้าวไกลยังติดตามว่าเมื่อไหร่จะจับกุมนำมาคนผิดลงโทษได้

ประเด็นที่ 9 ร่างกฎหมายที่ยังไม่เข้าสู่การพิจารณาของสภา ไม่ว่า ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขมาตรา 116, ร่าง พ.ร.บ.ปรับปรุงข้อมูลข่าวสาร, ร่าง พ.ร.บ.การช่วยเหลือทางเงินแก่ sme ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19, ร่าง พ.ร.บ.จัดสรรที่ดิน, ร่าง พ.ร.บ.สุราเสรี, ร่าง พ.ร.บ.กฎหมายสมรสเท่าเทียม รวมถึงร่างกฎหมายว่าด้วยการยกเลิกประกาศคำสั่ง คสช. ที่ยื่นเข้าไปตั้งแต่สมัย นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ยังเป็นประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม เเละสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร

ประเด็นที่ 10 การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขอยืนยันว่า พรรคก้าวไกลเห็นด้วยกับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เเละเห็นด้วยว่าระบบจัดสรรปันส่วนตามกลไกรัฐธรรมนูญ 60 มีปัญหา เเต่เรายังคงยืนยันว่า มีระบบคำนวนที่ดีกว่าระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แบบรัฐธรรมนูญ 2540 ที่สามารถสะท้อนเสียงพี่น้องประชาชนได้ถูกสัดส่วนมากกว่า อย่างไรก็ตาม เรายืนยันเช่นกันว่าพร้อมเลือกตั้งเเละพร้อมสู้ในทุกกติกาการเลือกตั้ง เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมให้กับพี่น้องประชาชน